วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

มอเตอร์เวย์เชื่อมกาญจนบุรี โอกาสผลักดันเศรษฐกิจสู่สากล


 การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.กาญจนบุรี ในระหว่างวันที่ 19-20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีมติสำคัญสำหรับ จ.กาญจนบุรี ก็คือ การอนุมัติแผนพัฒนาพื้นที่ เพื่อรองรับการเชื่อมโยงท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ในประเทศพม่า ซึ่งมีที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้เคียงกับ จ.กาญจนบุรี อันรวมไปถึงโครงการการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 81 เส้นทางบางใหญ่ (นนทบุรี)-บ้านห้วยตะลุม (กาญจนบุรี) เป็นระยะทาง 98 กิโลเมตร วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท
          ทั้งยังเห็นชอบในการขยายถนนมอเตอร์เวย์ช่วงที่ 2 เส้นบ้านห้วยตะลุม-บ้านพุน้ำร้อน (อ.เมือง จ.กาญจนบุรี) ระยะทาง 70 กิโลเมตร ด้วยเหตุที่ว่าโครงการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญต่อการค้าการลงทุนและผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ขยายตัวเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.9  ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังอนุมัติแผนการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่จังหวัดภาคกลาง 8 จังหวัด จำนวน 203 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 33,111 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่มีการอนุมัติขอวงเงินงบประมาณได้ทันที จำนวน 60 โครงการ วงเงินกว่า 1,041 ล้านบาท
          ก่อนหน้าที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติออกมาข้างต้น น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ในการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ.) ครั้งที่ 4/2555 วันที่ 19 พฤษภาคม ที่ จ.กาญจนบุรี โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)
          ความเกี่ยวเนื่องของผลสรุปก็คือ สนับสนุนโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมี จ.กาญจนบุรี เป็นแกนหลัก เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2554-2561 แผนงานเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็คือให้น้ำหนักกับถนนเชื่อมโยงทวาย-ชายแดนไทย/พม่า 4 ช่องจราจร ในระยะแรก รวมทั้งการพัฒนาบริเวณด่านพรมแดนถนนเชื่อมโยงสนามบินทวาย และพื้นที่ส่วนราชการแบบเบ็ดเสร็จ
          ส่วนระยะที่สองคือ จะดำเนินการให้ครอบคลุมถนนในเขตนิคมอุตสาหกรรมทวายเพิ่มเติม เชื่อมโยงชายแดนไทย/พม่า เป็น 8 ช่องทาง ผสมผสานกับเส้นทางรถไฟ ท่อขนส่งน้ำมัน เป็นต้น โดยการเร่งรัดการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงภาคตะวันตก ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 81 เส้นทาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี-บ้านห้วยตลุง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
          โครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ (ช่วงที่ 2) เส้นทางบ้านห้วยตลุง อ.ท่าม่วง-บ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ โครงการขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจรจากบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี-หมายเลข 3208 บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จ.ราชบุรี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและเชื่อมโยงโลจิสติกส์ลงสู่ภาคใต้ ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติมอบให้กระทรวงคมนาคม จัดทำแผนแม่บท การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการพัฒนาท่าเรือทวายและการเปิดด่านบ้านพุน้ำร้อน พร้อมทั้งจัดลำดับความสำคัญของสายทางหลักและสายทางรอง
          สำหรับการดำเนินงานของกรมทางหลวงต่อโครงการทางหลวงพิเศษ เส้นทางระหว่างบางใหญ่ (นนทบุรี) มาบรรจบกับ บ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดก่อนที่จะเสนอแผนงานในโครงการนี้ไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เนื่องจากเป็นการขยายการเชื่อมต่อเส้นทางจากระยะที่ 1 มายังระยะที่ 2 ประเด็นการศึกษาดังกล่าวครอบคลุมไปที่การเวนคืนพื้นที่เพื่อรองรับการจัดสร้างทาง การศึกษาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระบวนการในส่วนนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและจัดทำแผนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณในปี 2556
          "สนข.วางแผนสำหรับโครงการทวาย ในการที่จะสร้างโครงข่ายการขนส่งบนบก ทั้งทางหลวงพิเศษ และการจัดทำระบบขนส่งทางราง เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ เข้าสู่กาญจนบุรี และวางแผนการขนส่งด้วยระบบรางควบคู่ไปด้วย โดยจะเชื่อมไปถึงท่าเรือแหลมฉบัง ที่ชลบุรีด้วย โดยตัวเลขในส่วนของทางหลวงพิเศษระยะที่ 1 ระยะที่ 2 คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนรวมกันกว่า 4 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในส่วนของเส้นทางรถไฟ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด" สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร( สนข.) กล่าวและว่า สำหรับการขนส่งทางอากาศ ทาง สนข.ยังไม่ได้ศึกษาถึงความจำเป็น แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความเคลื่อนไหวจากทาง จ.กาญจนบุรี ต่อการเสนอขอใช้สนามบินของทหารเพื่อรองรับการขนส่งทางอากาศจากกรุงเทพฯ มาที่ จ.กาญจนบุรี
          สรรเพชญ สฤษฎ์อรรถกร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การพัฒนาระบบขนส่งดังกล่าวจะเป็น การจัดสร้างทางหลวงพิเศษในอนาคตอันใกล้ รวมไปถึงการเชื่อมโยงขนส่งระบบราง จะเป็นการสร้างโอกาสต่อการพัฒนาเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นกับจังหวัด เพราะเท่ากับว่าจะเป็นการเปิดประตูทั้งภาคการค้า การลงทุนให้เกิดขึ้น ซึ่ง จ.กาญจนบุรีนับจากนี้ไป จะมีบทบาทต่อการเป็นประตูเชื่อมระหว่างทวาย ฝั่งพม่า เข้ากับกรุงเทพฯ และท่าเรือแหลมฉบัง ใน จ.ชลบุรี 
          "ในส่วนของสภาอุตสาหกรรมที่เราให้ความสำคัญก็คือการเปิดด่านการค้า ทั้ง ที่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี และด่านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหากแล้วเสร็จจะส่งผลดีต่อภาคการค้า และการส่งออกระหว่างไทยและพม่า ขณะเดียวกันเมื่อผนึกเข้ากับเส้นทางคมนาคมที่จะเกิดขึ้น ย่อมเป็นการเพิ่มศักยภาพให้แก่ จ.กาญจนบุรี อย่างสมบูรณ์แบบ" สรรเพชญกล่าว
          นี่จึงเป็นภาพของทางหลวงพิเศษหรือมอเตอร์เวย์ที่มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท ที่กำลังจะเข้ามามีส่วนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ จ.กาญจนบุรี และเศรษฐกิจประเทศไทย ผ่านโครงการท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมทวายในฝั่งพม่า

ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์  07/06/2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น