“โลนลี่ แพลนเน็ท” แนะนำ “10 สุดยอดเมืองน่าเที่ยวประจำปี 2012″ ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันดี และเมืองที่นักเดินทางบางคนแทบไม่เคยนึกถึง หรือไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วยซ้ำ
1. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เนื่องจากในช่วงกลางปีนี้ (27 ก.ค. – 12 ส.ค.) กรุงลอนดอนจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ทำให้ทั่วทั้งเมืองอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อถึงเวลาดังกล่าว กรุงลอนดอนจะเต็มไปด้วยกองทัพนักท่องเที่ยว นักกีฬา สื่อมวลชน และกองเชียร์จากทั่วโลก จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะเดินทางไปร่วมเชียร์ เฉลิมฉลอง และท่องเที่ยว ท่ามกลางคนชาติต่างภาษา ภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและแสนคึกคัก


2. เมืองมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน
มัสกัต เมืองหลวงและเมืองเก่าแก่ของประเทศโอมาน เริ่มเป็นที่จับตามองของนักท่องเที่ยว หลังมีการพัฒนาและปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวครั้งใหญ่นับตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ยันรีสอร์ทหรูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่นี่ยังมีแหล่งโบราณสถาน การแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมและกีฬาทางน้ำ แหล่งช้อปปิ้งสุดอินเทรนด์ และตลาดเก่าแก่ ไว้คอยบริการผู้มาเยือน นี่ยังไม่นับรวมการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวเมืองที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันครั้งแรก
3. เบงกาลูรู หรือ บังกาลอร์ สาธารณรัฐอินเดีย
เบงกาลูรู เป็นมหานครและเมืองเอกของรัฐกรณาฏกะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ที่นี่เต็มไปด้วย เครื่องดื่มชั้นดี อาหารรสเลิศ สุดยอดการแสดงด้านศิลปะและดนตรี ฯลฯ และเนื่องจากระบบรถไฟฟ้าของที่นี่เริ่มเปิดให้บริการบางสายนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสอันดีที่นักท่องเที่ยวจะได้เดินทางไปเยือนเมืองเบงกาลูรูแบบสบายกายสบายใจ โดยไม่ต้องผจญภัยบนท้องถนนอีกต่อไป
4. เมืองกาดิซ ราชอาณาจักรสเปน
ปกติแล้ว กาดิซ เป็นเมืองที่เงียบสงบ แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่นี่จะเต็มไปด้วยสีสันและบรรยากาศแห่งความสนุกสนานของงานคาร์นิวัล ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลอง (กินดื่ม ร้องเพลง เต้นรำ) อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานนับ 10 วัน ตลอดช่วงเวลาดังกล่าวชาวเมืองกาดิซจะพากันแต่งกายในชุดแฟนซีที่เน้นในเรื่องความตลกขบขัน ล้อเลียน เสียดสี ประชดประชันสังคม ฯลฯ มากกว่าเน้นในเรื่องของความสวยงามอลังการ ที่สำคัญ ในปีนี้กาดิซได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมอิเบโร-อเมริกัน และยังได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ‘อิเบโร-อเมริกัน ซัมมิท’ อีกด้วย (งานประชุมกลุ่มผู้นำประเทศที่ใช้ภาษาสเปนและโปรตุเกสทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกา)

5. กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน
สตอกโฮล์ม เป็นเมืองหลวงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ นอกจากความสวยงามของบ้านเมือง บรรยากาศแบบสบายๆ และอากาศที่สดชื่นแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องดีไซน์ช้อปสุดอินเทรนด์ และบาร์สไตล์โบฮีเมียนอีกด้วย แม้การเที่ยวสตอกโฮล์มอาจทำให้กระเป๋าแฟบ แต่รับรองว่าได้ว่ากลับมาแล้วหัวใจของคุณจะพองโตด้วยความประทับใจ

6. เมืองกิมาเรซ สาธารณรัฐโปรตุเกส

กิมาเรซ เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศโปรตุเกส ถึงแม้จะเป็นเมืองที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก แต่กิมาเรซกลับยังไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากนัก และในปีนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่นักท่องเที่ยวควรหาโอกาสเดินทางไปเยือนเมืองกิมาเรซสักครั้ง ในฐานะที่เมืองดังกล่าวได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของสหภาพยุโรป ประจำปี 2012 และในปีนี้ที่นี่ก็จะมีการจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินจากประเทศในแถบยุโรปให้ได้ชมกันตลอดทั้งปี

7. เมืองซันติอาโก สาธารณรัฐชิลี
ที่ผ่านมา ประเทศชิลีตกเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 8.8 ริกเตอร์ ตามด้วยเหตุคนงาน 33 คนติดอยู่ใต้เหมืองซึ่งมีการรายงานข่าวความคืบหน้าแบบนาทีต่อนาที หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวชิลีก็พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการเร่งพัฒนาภาคการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการกีฬาในเมืองซันติอาโก ทั้งยังเปิดพิพิธภัณฑ์ใหม่อีกหลายแห่งหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่ม นี่ยังไม่นับรวม อาหารรสเลิศ แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน และการเปิดตัว “ตอร์เร แกรน คอสตาเนร่า” ตึก 70 ชั้นสูงที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปีนี้
8. เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ฮ่องกง เป็นเขตบริหารพิเศษที่มีเสรีภาพมากที่สุดในประเทศจีน และในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ชาวฮ่องกงก็กำลังจะเดินหน้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยเต็มขั้นด้วยการลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าการคนใหม่แทนที่นายโดนัล ชาง… ฮ่องกงมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเลือกทำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการ ล่องเรือ ขึ้นเขาชมวิวตึกระฟ้า เข้าวัด ขอพรเทพเจ้าและสิงศักดิ์สิทธิ์ ช้อปปิ้ง เที่ยวสวนสนุก ชมการแสดงผลงานศิลปะ ฯลฯ ส่วนท่านที่เป็นนักชิม ที่นี่ก็มีร้านอาหารราว 11,000 แห่งให้เลือกลิ้มลอง

9. เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
ปีนี้ถือเป็นปีทองด้านการท่องเที่ยวของเมืองออร์แลนโด เพราะในวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการจัดงาน “เอ็นบีเอ ออลสตาร์ วีคเอ็น” ที่นั่น นอกจากการแข่งขันบาสเก็ตบอลแล้ว ภายในงานยังมีการประกวดสแลมดังค์ งานปาร์ตี้ และการแสดงคอนเสิร์ตอีกด้วย แม้จะไม่ใช่คอกีฬา แต่การเดินทางไปเยือนเมืองออร์แลนโดก็นับว่าคุ้มค่า เพราะนอกจากจะเป็นที่ตั้งของสวนสนุกชื่อดังอย่าง วอลท์ ดีสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ท, ยูนิเวอร์แซล ออร์แลนโด รีสอร์ท และ ซีเวิลด์ ออร์แลนโด แล้ว ที่นี่ยังมีแหล่งรวมร้านอาหาร บาร์ ร้านหนังสือ ร้านสัก ร้านเสื้อผ้า ฯลฯ สไตล์โบฮิเมียนสุดฮิพในย่านมิลค์ ดิสตริคท์ (โรบินสัน สตรีท) อีกด้วย
10. เมืองดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย
ดาร์วิน เป็นเมืองหลวงของนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (ดินแดนหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย) ในอดีตเคยเป็นสถานที่ๆ ไม่ค่อยน่าเดินทางไปเยือนเท่าไหร่นัก เพราะเต็มไปด้วยชาวประมงเลือดร้อน ฮิปปี้ และสิงห์รถบรรทุก (เคยโดนญี่ปุ่นทิ้งระเบิดถล่มสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และโดนพายุไซโคลนพัดถล่มอย่างหนักจนอาคารบ้านเรือนพังถล่มกว่า 70%ว) แต่หลังมีการพัฒนาพื้นที่ริมชายฝั่งให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านธุรกิจ และย่านการค้า เมืองดาร์วินก็กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบรับประทานอาหาร (มีซุ้มขายอาหารนานาชาติริมชายหาดกว่า 60 ร้าน) ชมการแสดงดนตรี และปาร์ตี้ริมชายหาด พลางชมพระอาทิตย์ตกลงในทะเลติมอร์ท่ามกลางสภาพอากาศแบบร้อนชื้น